5 ต.ค.54 เมื่อเวลา 14.00 น. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ปปท.) และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้นำตัวนายเอกวิทย์ ทองดีวรกุล อายุ 22 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.สงขลา เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และมือแฮกเกอร์เฟซบุ๊คของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีผู้ต้องหากรณีเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงของผู้อื่นโดยมิชอบมาแถลงข่าว น.อ.อนุดิษฐ์ แถลงว่า จากที่กระทรวงไอซีทีได้รับรายงานการกระทำความผิด ทางสำนักป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ของกระทรวงไอซีที ได้ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรม ทางเทคโนโลยี (ปอท.) ได้ดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิด แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางกระทรวงจะมีการแถลงข่าวแต่ยังไม่มีการยืนยันผู้กระทู้ความผิด เนื่องจากต้องการรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนาและป้องกันไม่ให้มีการจับผิดตัว จึงต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและรัดกุม ซึ่งหลังจากรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว ก็ได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิด โดยการเชิญตัวมาสอบปากคำ ซึ่งนายเอกวิทย์รับสารภาพว่าเป็นผู้ดำเนินการแฮกข้อมูลของนายกฯแต่เพียงผู้เดียว ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการจับผิดตัว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดย ปอท. จะเป็นผู้รับผิดชอบทำการรับตัวผู้ต้องหาเพื่อนำไปดำเนินคดีต่อไป
วิเคราะห์ข่าว
ผู้ต้องหาเป็นมือแฮกเกอร์ ที่ได้ทำการแฮกเฟซบุ๊คของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้าไปแฮกข้อมูลต่างๆ ซึ่งเจ้าตัวกระทำแต่เพียงผู้เดียว เจ้าหน้าที่ได้ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการจับผิดตัว และแน่นอนว่าจะดำเนินการตามกฎหมาย
พฤติกรรมการกระทำผิด
แฮกเกอร์เฟซบุ๊คของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหากรณีเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงของผู้อื่นโดยมิชอบ
วิธีป้องกันการกระทำความผิดที่เกิดขึ้น
ไม่ควรละเมิดสิทธิข้อมูลททางระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยเฉพาะ และไม่ใช่ระบบของตนเอง
บทลงโทษ
มาตรา 5 ผู้ใดเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตราการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและไม่ใช่ระบบของตนเอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนมาตรา 7 กล่าวถึงความผิดจากการเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ของคนอื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น